เรื่องของ เด็กชายหัวโหนก 3
เหตุการณ์น้ำท่วม ผ่านไป 2 เดือน ก็เริ่มคลี่คลาย น้ำเริ่มทยอยลด
เหตุการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ เมื่อทราบข่าวดี
ทุกคนอยากกลับบ้านเพื่อเข้าไปทำความสะอาดบ้านอันเป็นที่รักของตนเอง แม้การกลับมาเห็นภาพแรก
กลิ่นอับ รอยคราบน้ำท่วมสูงสุด บรรยากาศ สภาพบ้านจะทำให้หลายคนน่าสะเทือนใจ
น้ำตาซึม แต่ก็เกิดฮึดสู้ลงมือ ช่วยกันทำความสะอาดตามกำลังที่สามารถจะทำได้หลังล้างทำความสะอาดเสร็จ
ก็เกิดมหกรรมซ่อมแซมบ้านครั้งใหญ่ทันที วัสดุก่อสร้าง เช่น
ทรายและช่างกระเบื้องขาดแคลน ไปทั่วพื้นที่น้ำท่วมในกรุงเทพและต่างจังหวัด
หากใครช่างสังเกต ผ่านไป สถานที่แถวบ้านที่เคยประสบเหตุครั้งนั้น
ฝั่งธน แถวตลิ่งชัน ยังคงเห็นรอยคราบน้ำ
ตามกำแพงรั้วบ้าน ยังมีให้เห็นเตือนความจำในอีกหลายปีต่อมา
จากแผนเดิมที่ทางกลุ่มผู้ปกครอง เตรียมจัดกิจกรรมปิดเทอมปีที่ 2 เมือเกิดน้ำท่วม เป็นอันว่าการต้องงดกิจกรรมไว้ก่อน โดยมาจัดกันปีที่3 และ4 จากนั้น กระนั้นเวลาก็ล่วงเลยหลายปี
วุ่นวายกับการเตรียมย้ายโรงเรียนเข้า ป.1 และการปรับตัว ประกอบกับช่วง 2 ปี
ที่มีการมีเหตุการณ์กีฬาสีประจำชาติรอบสอง
เกิดความไม่สงบเนืองๆ เสียง วี้ดบึม ต่อเนื่อง ชาวนาเดินขบวน ต่อเนื่อง โครงการโรงเรียนสอนศิลปะคงยังเป็นเพียงแนวคิดอยู่ภายในใจลึกๆของพ่อแม่เด็กชายหัวโหนก
แม้ต่อมาหลาย ครั้ง จะมีความพยายามทำโครงการโรงเรียน มักได้รับเสียงคัดค้านต่างๆ
แย้งว่าไม่มีข้อมูลทางการตลาดและความคุ้มค่าในการลงทุนมาสนับสนุน ประกอบกับจังหวะเวลาที่ยังไม่ลงตัว ทำให้บ่อยครั้งที่เกิดความท้อใจ ลังเล สงสัย ทำให้ไม่สบายใจ จำต้องชะลอออกไปก่อน
แต่เมื่อมองเห็นหน้าเด็กชายหัวโหนก ก็อดคิดไม่ได้ว่า หากทำสิ่งที่เป็นประโยชน์กับเด็กชายขณะเดียวกันก็สามารถเผื่อแพร่ให้เด็กคนอื่นๆที่สนใจด้วย
น่าจะทำให้หลายคนได้รับประโยซน์และมีความสุขตอบแทนเหมือนที่พ่อแม่หัวโหนกเคยได้รับจากผู้ใหญ่ใจดีหลายๆท่านให้กำลังใจและสนับสนุนให้
ทำในสิ่งที่เรารักและ มีโอกาสที่จะเติบโตและงดงามตามศักยภาพของตนเองและเผื่อแพร่ความสุขไปยังผู้อื่นต่อไป
ในที่สุดเมื่อจังหวะและปัจจัยต่างๆมีความพร้อม จึงได้เวลาเป็นที่มาของ โครงการ "โปรเจค แอททีเย่ " เป็นผลจากประสบการณ์ แนวคิดที่จะสอนศิลปะแนวทางบูรณาการและสร้างสรรค์ ด้วยเจตนารมณ์ที่ดีเป็นรากฐาน โดยมีเมตตาเปรียบเป็นน้ำและกัลยาณมิตรเปรียบเป็นปุ๋ย หล่อเลี้ยงความมุ่งมั่นและความตั้งใจ เติบโตชูช่อใบงาม และโอกาสที่เหมาะสมเป็นสภาพแวดล้อม ตามเหตุและปัจจัยที่เหมาะสม โดยนำแนวคิดที่สามารถพึ่งตนเองและพึ่งพาอาศัยผู้อื่นได้ ตามที่ ปิกัสโซ่ เคยกล่าวไว้ว่า ' Every child is an artist " ( เด็กๆทุกคนคนคือ ศิลปิน) เราเชื่อว่า เด็กทุกคนมีพื้นฐานที่สามารถเรียนรู้ ความสามารถทางศิลปะและสร้างสรรค์อยู่ในตัว และพัฒนาได้ตามศักยภาพของตนเอง โดยมีผู้ใหญ่ใจดี อย่างเราๆเข้าใจและให้โอกาสเหล่านั้น เพื่อมองดูพวกเด็กๆเติบโตก้าวไปข้างหน้าอย่างมีคุณภาพ เหมือนดั่งดักแด้ อดทนรอคอยเวลาที่จะเติบโตเป็น ผีเสื้อสีแสนสวยงาม โครงการนี้สำหรับเด็กๆและผู้สนใจทุกคนที่ต้องการ มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน
โดยทั้งหมด เรื่องของ 3 ตอน เป็นบรรยายผ่านเรื่องเล่า ที่มาของ "โปรเจค แอททีเย่ "โดยย่อ โดยทั้งนำโครงเรื่องจากเหตุการณ์จริง และชื่อสมมติ เพื่อความเหมาะสม เช่น พ่อแม่ของเด็กชายและเด็กชายหัวโหนก ทั้งนี้ต้องกล่าว ขอขอบคุณกลุ่มครอบครัวเพื่อนๆ ครู อาจารย์ ญาติพี่น้อง และกัลยาณมิตรที่หวังดีหลายๆท่าน ที่ให้การสนับสนุนและส่งเสริม เด็กชายหัวโหนก ให้เจริญเติบโตตลอดมา
Music by
ความคิดเห็น